ทั้งนี้ การจัดตั้งรัฐวิสาหกิจอาจเป็ นไปเพื่อการจัดหาสินค้าหรือบริ การสาธารณะให้กั บประชาชนในราคาที่เหมาะสม หรือลงทุนในภาคการผลิตที่เป็ นประโยชน์ในเชิงยุทธศาสตร์ และความมั่นคงของประเทศ รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่จึงได้รับสิ ทธิพิ เศษจากกฎหมายและนโยบายของรัฐ และสินทรัพย์บางส่วนของรัฐวิ สาหกิจถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์ ของแผ่นดิน เช่นที่ดินที่ได้จาการเวนคืนเพื ่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ สามารถจำหน่ายจ่ายโอนไปให้ เอกชนได้
โดยหลักการขั้นพื้นฐาน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องค้ำประกั นอย่างน้อยเท่ากับมูลค่าหนี้ส่ วนที่เกินจากมูลค่าสินทรัพย์ทั้ งหมดที่ไม่ใช่สินทรัพย์สาธารณะ เพราะเมื่อรัฐวิสาหกิจนั้ นขาดความสามารถในการชำระหนี้ ก็ไม่สามารถขายสินทรัพย์ดังกล่ าวให้กับเอกชนได้ ตัวอย่างเช่น หากรัฐวิสาหกิจหนึ่งมีสินทรัพย์ สาธารณะ 60 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ที่สามารถจำหน่ ายถ่ายโอนให้เอกชนได้ 40 ล้านบาท หากรัฐวิสาหกิจนี้มีหนี้ทั้งหมด 70 ล้านบาท รัฐบาลก็ควรค้ำประกันหนี้ขั้นต่ ำ 30 ล้านบาท
หลักการอีกประการหนึ่ง รัฐบาลยังจำเป็นต้องค้ำประกั นหนี้สาธารณะของรัฐวิสาหกิ จบางส่วน เพื่อให้รัฐวิสาหกิจนั้นๆ สามารถผลิตสินค้าหรือจัดหาบริ การที่จำเป็นต่อสวัสดิ ภาพของประชาชนและความมั่ นคงของประเทศ โดยมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ (สามารถกู้เงินที่มีดอกเบี้ยต่ ำได้) แต่หากรัฐวิสาหกิจนั้นมี ฐานะการเงินมั่นคงและมีอันดั บความน่าเชื่อถือสูง รัฐบาลอาจไม่จำเป็นต้องค้ำประกั นหนี้เต็มจำนวน เพราะรัฐวิสาหกิจดังกล่ าวสามารถกู้เงินได้ด้วยต้นทุนต่ ำอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี หากสินค้าและบริการดังกล่าว ภาคเอกชนสามารถผลิตได้อย่างเพี ยงพอและมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อความมั่ นคงของชาติแล้ว รัฐบาลอาจไม่จำเป็นต้องค้ำประกั นหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ผลิตสิ นค้าและบริการนี้อีกต่อไป เพราะจะทำให้เกิดความไม่เท่าเที ยมและการบิดเบือนกลไกตลาด เพราะรัฐวิสาหกิจมีต้นทุ นทางการเงินต่ำกว่าภาคเอกชนที่ เป็นคู่แข่ง
เมื่อพิจารณาแนวคิดการขายหุ้น ปตท.และการบินไทยด้วยหลักการข้ างต้น ธุรกิจของรัฐวิสาหกิจทั้งสองเป็ นธุรกิจที่ภาคเอกชนรายอื่ นสามารถจัดหาสินค้าและบริการเพื ่อมาแข่งขันกับรัฐวิสาหกิจดั งกล่าวได้ การค้ำประกันหนี้โดยรั ฐบาลอาจทำให้เกิดการบิดเบื อนกลไกตลาด และทำให้รัฐวิสาหกิจเหล่านี้ได้ เปรียบภาคเอกชนรายอื่นๆ ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน
ผมจึงเสนอว่า สัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาลในรั ฐวิสาหกิจทั้งสอง และการค้ำประกันหนี้ของรัฐวิ สาหกิจขั้นต่ำควรอ้างอิงจากร้ อยละของมูลค่าของสินทรัพย์ สาธารณะต่อมูลค่าสินทรัพย์ทั้ งหมดในรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ เพื่อให้สะท้อนว่ารัฐบาลเป็นเจ้ าของสินทรัพย์สาธารณะที่อยู่ ในรัฐวิสาหกิจนั้นๆ และจะค้ำประกันหนี้เฉพาะในสิ นทรัพย์ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของเท่ านั้น ไม่ได้ค้ำประกันหนี้เต็ มจำนวนเหมือนที่เป็นมาอีกต่อไป ไม่ว่าองค์กรนั้นจะเรียกว่าเป็ นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ก็ตาม
กล่าวโดยสรุป ผมเห็นว่า รัฐบาลจึงยังจำเป็นต้องค้ำประกั นหนี้ก้อนเดิมของรัฐวิสาหกิจอยู ่ต่อไป เพื่อมิให้เกิดการปกปิดซ่อนเร้ นหนี้สาธารณะและผลกระทบรุนแรงต่ อความเชื่อมั่น แต่ส่วนหนี้ที่รัฐวิสาหกิจจะก่ อขึ้นใหม่ รัฐบาลอาจไม่จำเป็นต้องค้ำประกั นหนี้เต็มจำนวนก็ได้