Sunday, April 10, 2011

Kriengsak Chareonwongsak : ทักษะสังคม 3




sukk.araya is moved by the inspiration of
my teachers,
my friends and  




-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทักษะสังคม พื้นฐานอยู่ร่วมกันอย่างมีสุข 3

นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ริเริ่มลูกสร้างมิตร   โดยการริเริ่มผูกมิตรและหยิบยื่นไมตรีจิตให้กับผู้อื่นก่อนเสมอ  ทั้งต่อเพื่อนฝูง ครูอาจารย์  เช่น การยิ้มอย่างจริงใจ  เข้าไปแนะนำตัวแสดงความรู้จักกับผู้อื่นที่เราอยากคบหาเป็นมิตรก่อน  การเรียนรู้จักการเป็นผู้ให้มากกว่าที่จะเป็นผู้รับฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตามหากพ่อแม่มีลูกที่ค่อนข้างมีบุคลิกขี้อาย ควรช่วยเหลือลูกโดยการเป็นผู้นำการสนทนาริเริ่มให้ลูกได้รู้จักกับเพื่อน ๆ หรือคุณครูก่อนจนคุ้นเคยและสามารถสานสัมพันธ์ต่อไปได้  รวมทั้งควรเปิดโอกาสให้ลูกได้พบปะกับคนในกลุ่มใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่เพียงแต่ที่โรงเรียน เช่น  ร่วมกิจกรรมเข้าค่ายฤดูร้อน  พาลูกไปพบปะกับเพื่อนบ้าน  ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของพ่อแม่ เป็นต้น 
สานต่อมิตรภาพ    หลังจากทำความรู้จักและเริ่มผูกมิตรแล้ว การสานต่อมิตรภาพให้ยั่งยืนต่อไปเป็นสิ่งสำคัญ การที่ลูกจะเป็นที่ถูกยอมรับจากเพื่อน ๆ นั้น อุปนิสัยใจคอ พฤติกรรมการแสดงออกของลูกต่อเพื่อนฝูงเป็นสิ่งสำคัญ เด็กบางคนขาดทักษะในด้านนี้มากเนื่องจากเอาความต้องการของตนเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่ได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจถึงจิตใจหรือความต้องการของคนรอบข้าง ส่งผลให้ไม่เป็นที่ยอมรับหรือเป็นที่ต้องการของเพื่อนในกลุ่ม นำมาซึ่งความเจ็บปวดและบาดเจ็บภายในใจ โดยที่ในบางครั้งลูกเองอาจไม่รู้ตัวและไม่ทราบจริง ๆ ว่าเพราะเหตุใดเพื่อน ๆ จึงพากันปฏิเสธหรือรังเกียจเขา 

พ่อแม่จึงควรช่วยเหลือลูกให้เรียนรู้เรื่องนี้อย่างเป็นระบบโดยผ่านเหตุการณ์จริง หรือเหตุการณ์สมมติ เช่น ผ่านการเล่าเรื่องจากนิทานสอนใจ การยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริง การสอนให้ลูกคิดถึงผู้อื่นโดยการเอาใจเขามาใส่ใจเรา   แล้วร่วมกันสรุปเป็นหลักการสอนลูกในภาคปฏิบัติ ทั้งพฤติกรรมการแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำเพื่อพัฒนาทักษะสังคมด้านต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นจริงในชีวิต 

1 comment:

  1. จัดแบ่งเวลา คิดทบทวน สิ่งใดยังทำไม่ได้ดี เพื่อลูก

    ReplyDelete