Wednesday, April 13, 2011

Kriengsak Chareonwongsak : ลูกถูกเพื่อนแกล้ง 5




sukk.araya is moved by the inspiration of
my teachers,
my friends and  


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รับมือ ลูกถูกเพื่อนแกล้ง ที่โรงเรียน 5

นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด


ร่วมด้วยช่วยกันกับโรงเรียน 
 ในเมื่อลูกใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนมากกว่าอยู่ที่บ้าน คุณครูจึงเป็นผู้ที่ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยเต็ม ๆ อย่างไม่สามารถปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยงได้  อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจพบว่าครูส่วนใหญ่เคยเห็นพฤติกรรมรังแกเพื่อน แต่เมื่อถามว่าได้พยายามห้ามหรือหยุดการกระทำเช่นนั้นหรือไม่คุณครูที่ถูกสัมภาษณ์กว่าครึ่งตอบว่าช่วยเหลือ ค่อนข้างน้อย หรือ แทบจะไม่เคยทำอะไร เพื่อหยุดการรังแก 
Kriengsak Chareonwongsak : ลูกถูกเพื่อนแกล้ง 5
ดังนั้นพ่อแม่จึงควรรวมตัวเป็นเครือข่ายผู้ปกครองในการผลักดันโรงเรียนให้เห็นความสำคัญในปัญหาดังกล่าวพร้อมมีนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนในการลดปัญหาการใช้ความรุนแรงของเด็กนักเรียน การแกล้งกันหรือรังแกกัน ซึ่งส่งผลรุนแรงในระยะยาวกลายเป็นปัญหาสังคมได้ในที่สุด   
เมื่อถึงเวลาที่ลูกของเราต้องออกจากอ้อมอกของพ่อแม่ไปเผชิญโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ด้วยตนเอง  พ่อแม่ทุกคนย่อมรู้สึกห่วงใยไม่อยากให้ลูกต้องได้รับความทุกข์ยากหรือความเจ็บปวดในชีวิต  การยื่นมือเข้าปกป้องช่วยเหลือในยามที่ลูกยากลำบาก ถูกกลั่นแกล้ง ถูกรังแก เป็นสิ่งที่พ่อแม่พร้อมยืนเคียงข้างลูก อย่างไรก็ตามพ่อแม่ควรตระหนักอยู่เสมอว่าสองมือที่เราคิดไปเองว่าเป็นมือแห่งการปกป้องช่วยเหลือนั้นแท้จริงแล้วอาจเป็นมือที่ไปทำร้ายและทำลายทั้งชีวิตลูกของเราก็เป็นได้ 

3 comments:

  1. เห้นด้วยอย่างยิ่งครับ โรงเรียนกับบ้านต้องจับมือกันครับ เป็นพ่อลูกอ่อนเเหมือนกัน

    ReplyDelete
  2. เห็นด้วยช่วยกันค่า

    ReplyDelete
  3. เป็นบทความที่ดีค่ะ หากครูและผู้ปกครองน่าจะร่วมกันหาทางออกประเด็นนี้มากขึ้น เราคงจะได้เห็นมาตรการที่ชัดเจนในการลดปัญหาการใช้ความรุนแรงของเด็กนักเรียน

    ReplyDelete