Tuesday, April 19, 2011

Kriengsak Chareonwongsak : อัจฉริยะนี้เพื่อใคร 4




sukk.araya is moved by the inspiration of
my teachers,
my friends and  



-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

อัจฉริยะนี้เพื่อใคร 4

4  


นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
kriengsak@kriengsak.com, http:// www.kriengsak.com


..ทำเพื่อใคร?  พ่อแม่ควรตั้งคำถามวิพากษ์กับตัวเองว่าแท้จริงแล้วการที่เราพยายามกระตุ้นพัฒนาการของลูกด้วยวิธีการต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การพัฒนาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสติปัญญาได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วนั้นแท้จริงแล้วเราทำเพื่อใคร พ่อแม่ควรระวังหลุมพรางความคิดที่หลอกว่าเรากำลังให้สิ่งดีที่สุดกับลูกอยู่ แต่แท้จริงแล้วเราอาจหวังผลทางอ้อมต่อผลลัพธ์แห่งการพัฒนาการของลูกนี้ในการนำไปใช้พูดคุยโอ้อวดว่าฉันเลี้ยงลูกดีกว่าเธอ ลูกของฉันเก่งกว่าลูกของเธอก็เป็นได้ 
...เป้าหมายแท้จริงที่เราต้องการเห็นในชีวิตลูกคืออะไร?  พ่อแม่ควรถามตัวเองว่าเป้าหมายที่เราต้องการในชีวิตลูกเมื่อเขาเติบโตขึ้นมาคืออะไร  หากเราต้องการสร้างให้เขาเป็นอัจฉริยะในด้านต่าง ๆ เราทำไปเพื่ออะไร และความเป็นอัจฉริยะนั้นแท้จริงแล้วนำมาซึ่งความสุขความสำเร็จในชีวิตของลูกจริงหรือไม่
...จำเป็นหรือไม่?  จำเป็นหรือไม่ที่พ่อแม่ต้องเร่งกระตุ้นลูกให้มากที่สุดในช่วงวัยทอง 3 ปีแรกของชีวิต หากกระตุ้นมากเกินไปจะเกิดผลทางลบหรือไม่ เนื่องจากมีงานวิจัยรายงานว่าการยัดเยียดหรือกระตุ้นเด็กมากเกินไปอาจเป็นการทำลายกระบวนการคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้ของเด็กอย่างไม่รู้ตัว ไม่เพียงแต่เฉพาะการอัดแน่นทางข้อมูลความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่การที่พ่อแม่จัดหาของเล่นต่าง ๆ ให้ลูกเกินความจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเล่นหรืออุปกรณ์สำเร็จรูปที่พร้อมเล่นได้ทันทีอาจส่งผลให้ลูกขาดทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือความคิดริเริ่มในการสร้างสรรค์พัฒนาของเล่นต่าง ๆ ด้วยตัวของเด็กเองก็เป็นได้ 
นอกจากนี้จากกระแสการโฆษณาชวนเชื่อทางการตลาดที่ธุรกิจด้านนี้พยายามโน้มน้าวให้พ่อแม่ใช้หลักสูตรหรืออุปกรณ์ของตนมาฝึกฝนบุตรหลาน รวมทั้งจากการที่เห็นพ่อแม่ท่านอื่น ๆ จำนวนมากต่างเร่งนำบุตรหลานของตนมาเข้าหลักสูตรการพัฒนาดังกล่าวกันอย่างถ้วนหน้า จึงยอมไม่ได้หากลูกของเราจะตกขบวนไป แม้ค่าอุปกรณ์หรือค่าหลักสูตรจะมีราคาสูงลิบแต่พ่อแม่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อไม่ให้ลูกต้องเสียเปรียบเด็กคนอื่น

No comments:

Post a Comment